in

นักบุญทำช็อค! ไล่ยิง ‘เรือ’ 2-0 ลิ่วตัดเชือกบาว คัพ


นักบุญทำช็อค! ไล่ยิง ‘เรือ’ 2-0 ลิ่วตัดเชือกบาว คัพ

BLOG TOPIC_A

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Line ID: @saless เบอร์โทรศัพท์ 0654695416 , 0654693944
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)



เซาธ์แฮมป์ตัน สลัดคราบทีมบ๊วยของพรีเมียร์ลีก จัดการถีบ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เต็งแชมป์คาราบาว คัพ จอดป้ายเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ 2-0 โดยเป็นเซกู มาร่า และมุสซ่า เฌเนโป ช่วยกันยิงในครึ่งแรก ผ่านเข้าไปเล่นในรอบตัดเชือกแบบพลิกความคาดหมาย

เซาธ์แฮมป์ตัน

Starting Formation: 4-2-3-1


31.


เกวิน บาซูนู


4.


ลีอันโก้


22.


โมฮัมเหม็ด ซาลิซู


6.


ดูเย่ คาเลต้า-คาร์


45.


โรเมโอ ลาเวีย

61′


27.


อิบราฮิม่า ดิยาลโล่


8.


เจมส์ วอร์ด-เพราส์


2.


ไคล์ วอล์คเกอร์-ปีเตอร์ส


19.


มุสซ่า เฌเนโป

57′


9.


อดัม อาร์มสตรอง

83′


18.


เซกู มาร่า

61′

ตัวสำรอง


13.


วิลเฟร็ด คาบาเยโร่


50.


ไรอัน ฟินนิแกน


11.


มิสลาฟ ออร์ซิช

83′


23.


ซามูเอล เอโดซี่


10.


เช อดัมส์

61′


15.


โรแมง เปอร์โรด์

57′


7.


โจ อาริโบ


24.


โมฮัมเหม็ด เอลยูนุสซี่

61′


46.


จิมมี่ มอร์แกน

ผู้จัดการทีม


นาธาน โจนส์

คาราบาว คัพ รอบก่อนรองชนะเลิศ

สนาม เซนต์ แมร์รี่

พุธที่ 11 มกราคม 2566

กรรมการ ปีเตอร์ แบงค์ส


เซาธ์แฮมป์ตัน

2

0

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

1-0 เซกู มาร่า 22′

2-0 มุสซ่า เฌเนโป 28′


ทั้งสองทีมเอาตัวจริงผสมสำรองลงสนามในเกมนี้ เซาธ์แฮมป์ตันยังมี เจมส์ วอร์ด-เพราส์ กัปตันทีมคุมแดนกลาง โดยแนวรุกให้ อดัม อาร์มสตรองจับคู่กับ เซกู มาร่า ขณะที่ มิสลาฟ ออร์ซิช ตัวใหม่เป็นสำรองไปก่อน ด้าน ซิตี้ ดร็อปตัวสำคัญทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ และเออร์ลิ่ง ฮาลันด์ ไว้ข้างสนามทำให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ, ฟิล โฟเด้นและแจ็ค กรีลิช คอยประสานงานในเกมรุก

กุนโดกันลองส่องไกล


เริ่มเกมมา ซิตี้ มีโอกาสลุ้นประตูก่อน พาลเมอร์ไหลบอลให้ กุนโดกัน ลองส่องด้วยขวานอกกรอบเขตโทษแต่บอลหลุดเสาซ้ายมือออกไปเรียกว่าทักทายก่อน

นักบุญมาลุ้นบ้าง


เซาธ์แฮมป์ตันมาลุ้นประตูบ้าง เฌเนโป จ่ายบอลมาถึง คาเลต้า-คาร์ ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบบอลไปติดเซฟออร์เตก้าปัดออกได้เตะมุม จังหวะต่อมา ซาลิซู ได้โขกก็ยังไม่ผ่านมือของออร์เตก้า

มาร่าหมุนยิงโดนไม่เต็ม


บอลเปิดยาวของเซาธ์แฮมป์ตันเข้าไปในกรอบเขตโทษ มาร่า จับบอลลงได้ก่อนหมุนตัวกลับมายิงด้วยขวาแต่ร้อนรนไปหน่อยทำให้ซัดหลุดกรอบออกไปไกลเลย

22′

อ่าว…มาร่าชาร์จตุงนักบุญนำ 1-0


โกเมซ ไปจ่ายบอลพลาดกลางสนาม ลีอันโก้ ตัดบอลได้ก่อนพาขึ้นมาเองทางกราบขวาก่อนครอสบอลมาหน้าปากประตูให้ มาร่าพุ่งเข้าชาร์จตุงตาข่ายไม่เหลือ 1-0!!!

28′

เรือหงอย! เฌเนโปส่องไกลนักบุญหนี 2-0


นักบุญ มาได้ประตูหนีห่าง เฌเนโป รับบอลจากลาเวียที่พลิกได้สวยในแดนตัวเอง ก่อนลากมาถึงระยะ 30 หลาแล้วตัดสินใจยกบอลข้ามหัวออร์เตก้าที่ออกมาจากเส้นเข้าประตูไปสวยงาม 2-0!!!

กรีลิชลากมายิงติดบล็อค


กรีลิช ลากบอลตัดจากริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงยัดทางเสาแรกไปติดบล็อคของ คาเลต้า-คาร์ ออกหลังได้เพียงแค่เตะมุม

45′

นักบุญช็อคนำซิตี้ 2-0


หมดเวลาครึ่งแรก นักบุญ ออกสตาร์ตได้สวยนำห่าง แมนฯ ซิตี้ ถึง 2-0 ทำให้ กวาร์ดิโอล่า ต้องกลับไปแก้เกมอย่างหนักเพราะแทบหาจังหวะส่องประตูไม่ได้เลย

46′

เป๊ปเปลี่ยน 3 ตัวรวด


กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนสำรอง 3 ตัวรวดในครึ่งหลังเอา เดอ บรอยน์, อาคันยี่ และอาเก้ ลงสนามมา แล้ว เดอ บรอยน์ แทงทะลุช่องให้ อัลวาเรซ หลุดล้ำหน้าไปแล้วแต่ยิงหลุดเสาไกลออกไป

อาร์มสตรองลากยิงหักข้อ


เจ้าถิ่นขึ้นเกมมาทางซ้าย วอล์คเกอร์-ปีเตอร์สจ่ายให้อาร์มสตรองลากตัดจากริมเส้นเข้ามาในกรอบเขตโทษก่อนตัดสินใจยิงหักข้อทางเสาแรกก็ไม่ตรงกรอบ

อดัมส์ส้มหล่นยิงไม่ได้ลุ้น


อดัมส์ที่เพิ่งลงสนามมาได้ส้มหล่นหลังเดอ บรอยน์จ่ายคืนหลังพลาดแต่ดันหวดบอลจะให้เข้าทางเสาไกลหลุกกรอบออกไปเยอะน่าเสียดายเลย

เรือเกือบโดนอีกเม็ด


วอล์คเกอร์-ปีเตอร์สเ เติมมาเอาบอลทางขวาก่อนไหลย้อนมาให้ วอร์ด-เพราส์ ยิงไปติดบล็อคก่อนอดัมส์ตามเข้ามาชาร์จก็โดนจับล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

อัลวาเรซชาร์จโดนไม่เต็ม


กุนโดกันได้บอลชิ่งเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนปาดเรียดเข้ากลาง อัลวาเรซพยายามพุ่งมาชาร์จแต่สุดท้ายบาซูนูก็รับเอาไว้ได้

เรือเซ็งนักบุญถีบร่วงบาว คัพ 0-2


ช่วงทดเวลา เอลยูนุสซี่ ลองส่องหน้ากรอบเขตโทษก็ไปติดบล็อค ก่อนหมดเวลาการแข่งขัน เซาธ์แฮมป์ตัน ชนะ 2-0 แบบสุดพลิกทำให้ แมนฯ ซิตี้ ตกรอบคาราบาว คัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

Starting Formation: 4-3-3


18.


สเตฟาน ออร์เตก้า


14.


อายเมริก ลาปอร์ต


2.


ไคล์ วอล์คเกอร์

46′


21.


เซร์คิโอ โกเมซ

46′


7.


เชา คันเซโล่


4.


คัลวิน ฟิลลิปส์

63′


8.


อิลกาย กุนโดกัน


80.


โคล พาลเมอร์

46′


19.


ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ


10.


แจ็ค กรีลิช

57′


47.


ฟิล โฟเด้น

ตัวสำรอง


26.


ริยาด มาห์เรซ


20.


แบร์นาร์โด้ ซิลวา


31.


เอแดร์ซอน


9.


เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

57′


25.


มานูเอล อาคันยี่

46′


82.


ริโก้ ลูอิส


16.


โรดรี้

63′


6.


นาธาน อาเก้

46′


17.


เควิน เดอ บรอยน์

46′

ผู้จัดการทีม


เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

แก้ไขล่าสุดโดย ZONG’TEEN เมื่อ Thu Jan 12, 2023 04:53, ทั้งหมด 14 ครั้ง

0

0

หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

โหวตเป็นกระทู้แนะนำ





Source link