จุดอ่อนบอลไทย! “เทกุซัง” เหยื่อความอดทนต่ำ
BLOG TOPIC_A
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
ฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน จากกุนซือที่เคยถูกยกย่องว่าเข้ามาพลิกโฉมวงการ ต้องตกงานในชั่วข้ามคืน
ภายหลังความพ่ายแพ้ต่อ ทรู แบงค็อก 0-2 ที่ ทรู สเตเดียม “บีจีพียู” ได้ประกาศแยกทางกับ “มาโกโตะ เทกุระโมริ” พร้อมแต่งตั้ง “มิซูโอะ คาโตะ” ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ขึ้นมารักษาการแทน
ด้วยเหตุผลกระชับ เพราะผลงานไม่ได้เป็นไปตามเป้าหมายของสโมสร โดยเฉพาะเกมเยือนที่ยังไม่สามารถปลดล็อคคว้าชัยได้
แต่หลายคนมองว่า น่าจะมีอะไรมากกว่าผลงาน “ตื้อ” หรืออาจจะเป็นเพราะความ “ดื้อ” ก็เป็นได้
หากมองผลงาน “เทกุซัง” ตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่กุนซือ“เดอะ แรบบิท” เมื่อเดือนมกราคม 2565 หรือในช่วงเลกสองของฤดูกาลที่แล้ว สามารถพาทีมก้าวขึ้นมาจนจบอันดับ 2 ศึก รีโว่ ไทยลีก 2021-22 ก่อนจะคว้าแชมป์ ไดกิ้น ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ 2022
และผลงานชิ้นเอกคือสร้างประวัติศาสตร์พา บีจีพียู ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายบอลถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2022
กับการที่ยังไม่ชนะเกมเยือนในฤดูกาลนี้ (แพ้ 3 เสมอ 2) จึงเป็นเหตุผลที่หลายคนตั้งคำถามว่า บอร์ดบริหาร บีจีพียู ตัดสินใจไวไปหรือไม่?
เน้นผลระยะสั้น มีความอดทนต่ำต่อผลงาน ไม่มีเวลาให้โค้ชสร้างทีม แล้ววนกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ นี่คือ “จุดอ่อนบอลไทย” อย่างแท้จริง
จากการประกาศแยกทางกับ “เทกุซัง” ของ บีจีพียู ก็มีข่าวลือออกมาทันทีว่า ส.บอลไทย ให้ความสนใจและได้มีการพูดคุยกันแล้วด้วย โดยเล็งมาทำทีมชาติ ส่วนจะชุดไหนนั้นต้องรอติดตาม
ก่อนหน้านี้ ชื่อของ “เทกุซัง” ก็มีแฟนบอลเรียกร้องอยากได้มาคุมทัพ “ช้างศึก” ด้วยโปรไฟล์และผลงานเป็นที่ประจักษ์
“เทกุซัง” เคยทำผลงานยอดเยี่ยมด้วยการพาทัพ “ซามูไรจูเนียร์” คว้าแชมป์เอเชีย ยู-23 ปี 2016 ที่กาตาร์ ด้วยสถิติชนะคู่แข่ง 100% พร้อมคว้าตั๋วลุยโอลิมปิกเกมส์ 2016 ที่บราซิล
นอกจากนี้ ยังผ่านฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก ในฐานะผู้ช่วยทีมชาติญี่ปุ่นชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทัพของ วาฮิด ฮาลิลฮ็อดซิช และ อากิระ นิชิโนะ ในรอบสุดท้าย ที่รัสเซีย ซึ่งทีมชาติญี่ปุ่นสามารถทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ อีกด้วย
ฟุตบอลไม่มีอะไรแน่นอน ในวันข้างหน้า “มาโกโตะ เทกุระโมริ” อาจจะมายืนคุมทีมชาติไทย ชุดใดชุดหนึ่ง ก็เป็นได้!!!